ติดปีก SMEs ไทย ขายสินค้าข้ามพรมแดน ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active

ติดปีก SMEs ไทย ขายสินค้าข้ามพรมแดน ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active

.

ครม.จึงเห็นชอบการเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross-Border e – Commerce) ภายใต้โครงการ SMEs Pro-active ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอซึ่งเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการขายสินค้าและบริการแบบ B-2-B (Business-to-Business) ผ่าน 3 แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์คือ Alibaba, KlangOne และ GlobalConnect

.

• Alibaba เป็นเว็บไซต์ที่มีการขายสินค้าออนไลน์ โดยเน้นการขายสินค้าในราคาถูกเทียบกับการค้าส่งหรือราคาจากโรงงาน ในเว็ปจะมีผู้ประกอบการโรงงานและผู้ค้าส่งมาลงข้อมูล ในเว็บนี้จำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศจีน พบว่ามีผู้ใช้บริการทั้งสิ้นทั่วโลกจำนวนถึงประมาณ 31 พันล้านคน

• KlangOne (คลังวัน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าไทย ที่เน้นการส่งออกไปยังภูมิภาค CLMV ผ่านช่องทางออนไลน์มีผู้ใช้บริการ มากกว่า 200 ล้านคน

• GlobalConnect จากความร่วมมือสภาธุรกิจสิงคโปร์

.

โดยรัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบที่เข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active ตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท/บริษัท/ครั้ง รวมไม่เกิน 6 ครั้ง เพื่อใช้เป็น

.

1) ค่าใช้จ่ายแรกเข้าและหรือค่าสมาชิกของแพลตฟอร์ม

2) ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าการตลาด และค่าใช้จ่ายในการทำ Online Content ของแพลตฟอร์ม โดยใช้จ่ายจากงบกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปัจจุบันโครงการ SMEs Pro-active ดำเนินการในระยะที่ 3 (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562- 2567) วงเงินโครงการรวม 500 ล้านบาท

.

ทั้งนี้ ความจำเป็นที่ต้องเสนอเพิ่มกิจกรรมการส่งเสริมการค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในครั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศได้ และผู้จัดงานแสดงสินค้าได้ปรับเปลี่ยนการจัดงานเป็นรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ จึงเสนอเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการค้าดังกล่าว เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับการสนับสนุนงบเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จากเดิมที่โครงการสนับสนุนเฉพาะผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางธุรกิจ ในต่างประเทศเท่านั้น

.

โดยคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active ต้องมีดังนี้

1. เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและมีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51%

2. เป็นสมาชิกของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศหรือหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย

3. เป็นนิติบุคคลที่เป็นผู้ผลิตและหรือผู้ส่งออกสินค้าไทยที่มีประสบการณ์การส่งออก โดยมีมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ไม่เกิน 500 ล้านบาท นับจากปีที่สมัครเข้าร่วมโครงการ

.

เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรมออนไลน์จึงกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติม คือ

1. เป็นสมาชิก Thaitrade.com ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Cross-Border e-Commerce ของไทย ที่ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

2. หากไม่เคยส่งออก ผู้ประกอบการจะต้องผ่านการอบรมความรู้เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

 


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar